เคล็ดลับการออกแบบตู้เสื้อผ้าที่ใช้งานได้จริง 9 ข้อ เพื่อสร้างพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าที่สมบูรณ์แบบ
การจัดเก็บถือเป็นประเด็นสำคัญในการออกแบบภายในบ้านมาอย่างยาวนาน และการเก็บเสื้อผ้าก็เป็นหนึ่งในความต้องการในการเก็บที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่มีเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากมาย ตู้เสื้อผ้าไม่เพียงต้องเก็บเสื้อผ้าประจำวัน แต่ยังต้องจัดเก็บหมวก ผ้าพันคอ และอุปกรณ์แต่งกายอื่นๆ อย่างเหมาะสมด้วย แล้วจะทำอย่างไรให้การออกแบบตู้เสื้อผ้านั้นใช้งานได้ดีและตรงกับความต้องการ? บทความนี้จะมาแชร์คุณสมบัติและเทคนิคการออกแบบตู้เสื้อผ้าต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถสร้างพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าที่ในฝันได้ หากคุณมีความต้องการในด้านการวางแผนตกแต่งภายใน ยินดีต้อนรับให้กรอกแบบฟอร์มพูดคุยกับนักออกแบบได้เลยที่ Spaceplus
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
ประเภทของการออกแบบตู้เสื้อผ้ามีอะไรบ้าง?
ตู้เสื้อผ้าแบบปิด
ตู้เสื้อผ้าแบบปิดเป็นวิธีการจัดเก็บเสื้อผ้าที่พบได้บ่อย มีบานตู้เป็นประตูซึ่งช่วยเก็บซ่อนเสื้อผ้า ทำให้พื้นที่ดูเรียบร้อยเป็นระเบียบมากขึ้น และยังช่วยในการป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก รักษาเสื้อผ้าให้สะอาดอีกด้วย
(▲ วิธีออกแบบตู้เสื้อผ้า ข้อดีข้อเสียของตู้เสื้อผ้าแบบปิด)
ตู้เสื้อผ้าแบบเปิด
ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดจะหลุดจากการออกแบบแบบปิดแบบระเบียบเดิมๆ โดยเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บให้เป็นพื้นที่แสดงความเป็นตัวเอง ซึ่งสามารถปรับโครงสร้างตามความต้องการในการใช้งานได้ง่าย กลายเป็นจุดเด่นของการออกแบบภายในบ้าน
(▲ วิธีออกแบบตู้เสื้อผ้า ข้อดีข้อเสียของตู้เสื้อผ้าแบบเปิด)
ตู้เสื้อผ้าแบบกึ่งเปิด
ตู้เสื้อผ้าแบบกึ่งเปิดเป็นการจัดเก็บเสื้อผ้าที่ผสมผสานระหว่างแบบปิดและแบบเปิด ปกติจะออกแบบบางส่วนของตู้โดยไม่มีบานประตู ซึ่งเหมาะกับการจัดวางของที่ใช้งานบ่อย เช่น กระเป๋าหรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้สะอาด เรียบง่ายต่อการนำออกและจัดเก็บ
(▲ วิธีออกแบบตู้เสื้อผ้า ข้อดีข้อเสียของตู้เสื้อผ้าแบบกึ่งเปิด)
ห้องแต่งตัวแบบวอล์กอิน
ห้องแต่งตัวแบบวอล์กอินคือตู้เสื้อผ้าที่ออกแบบให้มีพื้นที่จัดเก็บแยกต่างหาก ต้องการพื้นที่เพียงพอในการออกแบบและสามารถใช้พื้นที่ผิดรูปเพื่อตั้งอย่างชาญฉลาด ผู้ใช้สามารถเข้าสู่พื้นที่นั้น ทำให้สามารถจัดเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับได้เป็นระเบียบมากขึ้น หากมีพื้นที่เพียงพอ สามารถเพิ่มกระจกแต่งตัวหรือโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการแต่งตัวและเตรียมตัวออกจากบ้านได้เต็มรูปแบบ
(▲ วิธีออกแบบตู้เสื้อผ้า ข้อดีข้อเสียของห้องแต่งตัวแบบวอล์กอิน)
หลงผิดในการออกแบบตู้เสื้อผ้า
พื้นที่จัดเก็บมากเกินไปจะดีจริงหรือ?
หลายคนมักจะเผชิญปัญหาการจัดเก็บเสื้อผ้าไม่เพียงพอและมักจะต้องการมีพื้นที่เก็บของที่มากเกินไป แต่จริงๆ แล้วการวางแผนที่เหมาะสมดีกว่าการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บแบบไร้ทิศทาง การเพิ่มพื้นที่จัดเก็บที่ไม่จำเป็นมากเกินไปอาจทำให้ความงามของพื้นที่ลดลงและเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น การใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการจึงสำคัญที่สุด
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
ระบบชั้นเก็บของทนทานน้อยกว่าหรือไม่?
ในด้านการออกแบบตู้เสื้อผ้า ระบบชั้นเก็บของเป็นตัวเลือกที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากเป็นการออกแบบที่ยึดติดกับพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เหมือนกับเฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายได้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับวัสดุและคุณภาพการประกอบเพื่อความทนทาน ส่วนใหญ่แล้วไม้ประกอบที่มีมาตรฐานจะสามารถใช้งานได้หลายปี ไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทานเกินไป แต่ควรใส่ใจกับคุณภาพของวัสดุ และเลือกใช้วัสดุที่ปลอดสารพิษ
การเลือกสไตล์ของการออกแบบตู้เสื้อผ้ามีน้อยไหม?
ในอดีตระบบชั้นเก็บของอาจมีรูปแบบที่แบบเดี่ยว แต่ด้วยการตระหนักถึงสุนทรียศาสตร์ของพื้นที่ในยุคใหม่ ปัจจุบันการออกแบบถูกนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น นักออกแบบสามารถใช้ประโยชน์จากแสงหรือปรับเปลี่ยนวัสดุของบานประตูเพื่อให้ตู้เสื้อผ้ามีรูปแบบที่แตกต่างกันหลากหลายมากขึ้น
ทำความเข้าใจกับรายละเอียดที่คุณไม่ควรพลาดเพื่อการจัดเก็บตู้เสื้อผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
หลีกเลี่ยงการออกแบบตู้เสื้อผ้าแบบสูงจนถึงเพดาน?
บางคนคิดว่าการออกแบบตู้เสื้อผ้าที่สูงถึงเพดานจะทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดในพื้นที่และไม่สะดวกในการหยิบของ แต่หากตู้เสื้อผ้าไม่ได้สูงจนหมด อาจทำให้ฝุ่นสะสมระหว่างช่องว่างได้ การวางแผนความลึกและสีของตู้เสื้อผ้าอย่างเหมาะสมสามารถแก้ไขปัญหาการอึดอัดได้ หากพื้นที่จำกัด การออกแบบตู้เสื้อผ้าสูงถึงเพดานเป็นวิธีการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ควรใช้พื้นที่นี้จัดเก็บสิ่งของที่ไม่ใช้งานบ่อยเพื่อเสริมประสิทธิภาพการเก็บของในบ้าน
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
เทคนิคการออกแบบตู้เสื้อผ้า
การสำรวจความต้องการ
ขั้นตอนแรกในการออกแบบตู้เสื้อผ้าคือการเข้าใจความต้องการของตนเอง ทำรายการเสื้อผ้าที่ใช้ประจำวันว่ามีกี่ชิ้นและของประเภทใดบ้าง เช่นเสื้อคลุม เดรส เสื้อเชิ้ต รวมถึงอุปกรณ์เสริมเช่น ผ้าพันคอหรือหมวก จากนั้นจึงวางแผนการจัดสรรพื้นที่สำหรับแขวน พับ และลิ้นชักให้เหมาะสม เพื่อให้เสื้อผ้าทุกชิ้นมีที่เก็บที่เหมาะสม การออกแบบแบบนี้จะช่วยให้หลีกเลี่ยงการเพิ่มตู้เสื้อผ้าโดยไม่ได้จำเป็นซึ่งทำให้พื้นที่โดนใช้สูญเปล่า
คำนึงถึงนิสัยการใช้งาน
แต่ละคนมีรูปแบบการเก็บของและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ในการออกแบบตู้เสื้อผ้าจึงควรคำนึงถึงวิธีการใช้งานเช่น ชอบแขวนหรือพับเสื้อผ้ามากกว่ากัน? ต้องการพื้นที่เก็บเสื้อคลุมหรือเสื้อยาวมากกว่าหรือไม่? วิธีจัดเก็บอุปกรณ์เสริมเช่นผ้าพันคอหรือเข็มขัดจะต้องออกแบบอย่างไร? สิ่งเหล่านี้ควรออกแบบตามนิสัยการนำออกและจัดเก็บ เพื่อลดการเสียเวลาและทำให้การใช้ตู้เสื้อผ้าเป็นไปตามความต้องการในชีวิตประจำวันมากที่สุด
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
การแบ่งช่องภายในตู้เสื้อผ้า
หลังจากที่สำรวจความต้องการและนิสัยการใช้งานแล้ว ขั้นต่อไปคือการวางแผนการออกแบบสัดส่วนภายในตู้เสื้อผ้า ซึ่งรวมถึงการออกแบบสัดส่วนของรางแขวน ความยืดหยุ่นของชั้นวาง จำนวนลิ้นชัก และการจัดวางตะกร้าสำหรับพับเสื้อผ้า สิ่งเหล่านี้เป็นจุดสำคัญในการแบ่งช่องภายใน ควรให้ความสำคัญในการจัดวางให้เหมาะสม แม้ตะกร้าหรือชั้นวางจะช่วยในการเก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น อาจทำให้เสื้อผ้าชำรุดและรกรุงรังหากมีการหยิบของบ่อยครั้ง การวางแผนสัดส่วนภายในอย่างรอบคอบจะช่วยในการใช้งานในอนาคต
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
เลือกขนาดและความสูงที่เหมาะสม
ในการวางแผนขนาดของตู้เสื้อผ้าควรปรับตามความสูงและความต้องการจริงของผู้ใช้เพื่อให้ใช้งานได้ง่าย โดยทั่วไปแล้วความสูงของตู้เสื้อผ้าแบบติดพื้นควรอยู่ระหว่าง 180-240 เซนติเมตร ความสูงของพื้นที่แขวนควรปรับตามความสูงของผู้ใช้งานเพื่อให้สามารถหยิบใช้เสื้อผ้าได้สะดวก สำหรับพื้นที่แขวนเสื้อผ้าสั้นควรออกแบบที่ความสูงระหว่าง 60-90 เซนติเมตร และเสื้อผ้ายาวสามารถจัดที่ความสูง 120-150 เซนติเมตร หลีกเลี่ยงการเกิดรอยยับเนื่องจากขาดพื้นที่เพียงพอ ลิ้นชักควรอยู่บริเวณใต้ระดับเอวเพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้และเก็บของ
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
วิธีการเปิดประตูของตู้เสื้อผ้า
วิธีการเปิดประตูของตู้เสื้อผ้ามีหลัก ๆ 3 แบบ ได้แก่:
- แบบบานเปิด: ประตูจะเปิดออกด้านนอก ซึ่งทำให้ใช้พื้นที่ขณะเปิดประตู แต่มีเสียงที่เบาคลายเมื่อเปิด-ปิด และมีการป้องกันฝุ่นและความชื้นได้ดี
- แบบเลื่อน: เหมาะสำหรับห้องนอนขนาดเล็ก แต่ต้องทำความสะอาดรางเลื่อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือเกิดการกระแทกหากเปิด-ปิดผิดวิธี ควรติดตั้งระบบกันกระแทกเพื่อช่วยลดปัญหาเหล่านี้
- แบบไม่มีประตู: เพิ่มความสะดวกในการหยิบใช้และให้พื้นที่ดูโปร่งโล่ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีนิสัยรักษาความสะอาดและความเรียบร้อยได้ดี
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
การเลือกวัสดุประตูตู้เสื้อผ้า
วัสดุของประตูตู้เสื้อผ้ามีให้เลือกหลากหลายและมีผลต่อรูปลักษณ์ของตู้ ดังนี้:
- แผ่นระบบ: เป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุด สามารถทำให้ตู้มีสไตล์ที่ต่อเนื่อง มีตัวเลือกสีและลวดลายที่หลากหลาย ราคาประหยัด
- กระจกทรงรี: มีลายเส้นแนวตรงบนพื้นผิวและเป็นกระจกฝ้าช่วยลดความรู้สึกหนักหน่วงของตู้เสื้อผ้า
- กระจกกรอบอลูมิเนียม: มีความโปร่งแสงและให้ความรู้สึกทันสมัย น้ำหนักเบา เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง
- ผ้าม่าน: มักใช้สำหรับตู้เสื้อผ้าเปิด ติดตั้งง่ายและราคาถูก แต่มีการป้องกันฝุ่นที่จำกัด
( ▲ ผลงานการออกแบบ Spaceplus )
การออกแบบแสงไฟ
หากเลือกใช้ประตูที่โปร่งแสงหรือการออกแบบตู้เสื้อผ้าแบบเปิด การติดตั้งไฟเชิงเล็กจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและลดความรู้สึกหนักของตู้เสื้อผ้า เพิ่มมิติให้กับการออกแบบ
ติดตั้งกระจกสำหรับแต่งกาย
หากมีเพียงกระจกแต่งหน้าอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคน การซ่อนกระจกแต่งกายภายในตู้เสื้อผ้าช่วยประหยัดพื้นที่และแก้ไขปัญหาทางด้านฮวงจุ้ยของการวางกระจกในที่โล่ง
ผสมผสานกับการออกแบบฟังก์ชั่นอื่น ๆ
การออกแบบตู้เสื้อผ้าไม่จำกัดเฉพาะการเก็บเสื้อผ้า ยังสามารถผสานฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ เช่น การใช้แทนโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของการออกแบบตู้เสื้อผ้า
ปริมาณของวัสดุ
จำนวนวัสดุที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ ซึ่งมีผลกระทบต่อราคา ยิ่งถ้าต้องการขนาดพิเศษเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายก็ตามมา
คุณภาพของวัสดุเลือกใช้
คุณภาพของวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้จะมีผลในการตัดสินใจต่อราคาของตู้เสื้อผ้า เช่นวัสดุที่ใช้ทำจากไม้จริงมักมีราคาสูงกว่าระบบชั้นเก็บของ
ความซับซ้อนในการออกแบบ
ยิ่งการออกแบบซับซ้อนมากขึ้นเท่าใด ความยุ่งยากในการติดตั้งก็ยิ่งสูง ส่งผลให้ต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการประกอบติดตั้งก็มากขึ้นตามไปด้วย
สรุปการออกแบบตู้เสื้อผ้า
เมื่อเห็นภาพรวมการออกแบบตู้เสื้อผ้าแล้ว คุณคงเข้าใจถึงเทคนิคและรายละเอียดสำคัญในการออกแบบตู้เสื้อผ้า การใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ และการทำให้ตู้เสื้อผ้าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญในบ้านที่ใช้งานได้ดีเยี่ยม ควรใช้เวลาพูดคุยกับนักออกแบบเพื่อให้ได้การออกแบบที่ตรงใจมากที่สุด
หากคุณมีความต้องการจัดการตกแต่งและออกแบบภายใน ยินดีต้อนรับให้กรอกแบบฟอร์มพูดคุยกับนักออกแบบได้เลยที่ Spaceplus